Breaking News


Popular News






Enter your email address below and subscribe to our newsletter

ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 โซนยุโรป (UEFA Qualifiers) เดินทางมาถึง แมตช์เดย์ 8 แล้ว
โดยผลการแข่งขันเมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคม 2025 มีทั้งเกมเดือดและเหตุการณ์สุดพลิกล็อก
เมื่อชาติยักษ์ใหญ่ยังคงโชว์ฟอร์มสมราคา ขณะที่ทีมรองบ่อนบางทีมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ที่สนามเวมบลีย์ ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายในรอบคัดเลือก
ด้วยการเอาชนะไอร์แลนด์เหนือ 4–0 จากผลงานของ แฮร์รี่ เคน (2 ประตู), ฟิล โฟเด้น, และ บูกาโย่ ซาก้า
โดยเกมนี้ อังกฤษครองบอลกว่า 70% และแทบไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งสวนกลับเลย

“อินทรีเหล็ก” ของ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ยังคงโชว์ฟอร์มดุดันในกลุ่มของตน
หลังบุกไปเอาชนะไอร์แลนด์เหนือ 3–0 โดยมี ฟลอเรียน เวิร์ตซ์, ไค ฮาแวร์ตซ์, และ จามาล มูเซียล่า ทำคนละประตู
เยอรมนีจึงนำโด่งเป็นจ่าฝูงกลุ่ม มี 21 คะแนนจาก 8 นัด
เกมบิ๊กแมตช์ของคืนวันอาทิตย์จบลงด้วยชัยชนะของ ฝรั่งเศส ที่เฉือน อิตาลี 2–1
คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงเปิดหัวให้เลส์เบลอส์ ก่อนที่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ จะซัดลูกตัดสินในนาที 85
ส่วนอิตาลีได้ประตูจาก จานลูก้า สคามัคค่า แต่ไล่ไม่ทัน
ยังคงเป็นทีมขวัญใจมหาชน หลังเปิดบ้านเฉือนชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2–1
ได้ประตูจาก อาร์นี่ เฟรเดอริกเซ่น และ เคลเมนต์ โอลเซ่น
ถือเป็นชัยชนะเหนือทีม Top 30 ของโลกเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ฟุตบอลแฟโร
สเปนของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เริ่มกลับมาน่ากลัวอีกครั้ง หลังถล่มลัตเวียด้วยสกอร์ 5–1
ลามีน ยามาล ยิง 2 ประตู ขณะที่ อัลบาโร่ โมราต้า และ โอลโม่ ทำเพิ่มอีกคนละลูก
ส่งผลให้สเปนรั้งรองจ่าฝูงกลุ่ม โดยตามหลังฝรั่งเศสเพียง 1 แต้ม
เกาะติดกระแสร้อนแรงกับศึก ฟุตบอลโลก 2026 พร้อมผลบอลสด ตารางคะแนน และลิงก์ถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกคู่