เรอัล มาดริด เปิดบ้านเชือด บาร์เซโลน่า 2-1 ฉีกหนี 5 แต้ม

El Clasico เดือด! เรอัล มาดริด เปิดบ้านเชือด บาร์เซโลน่า 2-1 ฉีกหนี 5 แต้ม

เรอัล มาดริด สามารถรักษาฟอร์มการเล่นในบ้านที่สมบูรณ์แบบในลาลีกา ฤดูกาล 2025/26 ไว้ได้ ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ บาร์เซโลน่า ไปอย่างสนุกตื่นเต้น 2-1 ในศึก “เอล กลาซิโก้” ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ ‘ราชันชุดขาว’ ทิ้งห่างคู่แข่งไป 5 คะแนนบนตาราง

ก่อนเกม บาร์ซ่าต้องเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะคนสำคัญหลายราย โดยเฉพาะ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แม้จะตามหลังจ่าฝูงอย่าง เรอัล มาดริด เพียง 2 แต้มก่อนเริ่มการแข่งขัน แต่ภารกิจการบุกมาคว้าชัยถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับลูกทีมของ ฮันซี่ ฟลิค ที่ติดโทษแบนไม่ได้คุมทีมข้างสนาม

ครึ่งแรก: เอ็มบัปเป้-เบลลิงแฮม พาทีมนำ

เกมเริ่มต้นด้วยความเร็วสูง ท่ามกลางบรรยากาศที่ดุเดือดในสนามเบร์นาเบวที่ปิดหลังคา

• คีเลียน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ยิงประตูให้ เรอัล มาดริด ขึ้นนำเป็น 1-0 จากการประสานงานอันยอดเยี่ยมกับ จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) ซึ่งนับเป็นประตูที่ถูกต้องตามกฎหมายหลัง VAR เคยปฏิเสธประตูแรกของเขาไป
• แม้ บาร์เซโลน่า จะครองบอลได้ถึง 78.6% ในช่วง 10 นาทีแรก แต่ เรอัล มาดริด กลับดูอันตรายกว่ามากจากการโต้กลับเร็ว
• บาร์เซโลน่า ตีเสมอได้จากความผิดพลาดของ อาร์ด้า กูแลร์ (Arda Guler) ทำให้บอลมาถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) ที่จ่ายให้ เฟอร์มิน โลเปซ (Fermin Lopez) ยิงเข้าไปเป็น 1-1
• เพียง 5 นาทีต่อมา จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ยืนอยู่คนเดียวในกรอบ 6 หลา จัดการแปบอลเข้าไปอย่างง่ายดาย ให้ มาดริด ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1

ครึ่งหลัง: วอยเชียค เชสนีย์ เซฟอุตลุด

ครึ่งหลังยังคงเป็นเกมที่ดุเดือด โดย วอยเชียค เชสนีย์ (Wojciech Szczesny) ผู้รักษาประตูบาร์เซโลน่า โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการ เซฟจุดโทษของ เอ็มบัปเป้ หลังจาก VAR ตัดสินว่า เอริค การ์เซีย ทำแฮนด์บอล

แม้ว่า บาร์เซโลน่า จะยังคงครองบอลได้มากกว่าถึง 68.5% และผ่านบอลสำเร็จมากกว่าถึง 573 ครั้ง เทียบกับ 222 ครั้งของ เรอัล มาดริด แต่ “ราชันชุดขาว” ก็ดูมีแนวโน้มที่จะทำประตูเพิ่มได้มากกว่า

ในช่วงท้ายเกม ชาบี อลอนโซ่ (Xabi Alonso) สั่งให้ลูกทีมถอยลงไปรับและป้องกันสกอร์นำอันเฉียดฉิวไว้ ซึ่งเกือบทำให้พวกเขาต้องเสียประตูตีเสมอ โดยเฉพาะจังหวะของ ฌูลส์ กุนเด้ (Jules Kounde) ในนาทีที่ 89 ที่พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

ความพ่ายแพ้ของบาร์เซโลน่ายังถูกซ้ำเติมด้วยการที่ เปดรี้ (Pedri) ได้รับ ใบแดง ในนาทีที่ 99 จากการเข้าสกัดที่รุนแรง ทำให้เขาจะพลาดลงเล่นในเกมถัดไป

สรุปสถิติสำคัญ:

• บาร์เซโลน่า ครองบอล 68.5% แต่กลับมีโอกาสพลาดการครองบอลโดย ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) มากที่สุดถึง 21 ครั้ง
• วอยเชียค เชสนีย์ ต้องเซฟถึง 9 ครั้งตลอดทั้งเกม

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ เรอัล มาดริด ทำคะแนนฉีกหนี บาร์เซโลน่า ออกไปเป็น 5 แต้มบนตารางลา ลีกา

อย่าพลาดทุกแมตช์สำคัญ! อัปเดตผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ พร้อมลิงก์ ดูบอลสด ครบทุกลีกดัง