Breaking News



Popular News

นูโน่ เรียกร้องเอกภาพท่ามกลางแฟนประท้วง “มันยากมาก ๆ ที่จะเข้าใจ”








Enter your email address below and subscribe to our newsletter

ศึกพรีเมียร์ลีกที่ คราเวน ค็อตเทจ กลายเป็นหนึ่งในเกมคลาสสิกประจำฤดูกาล
เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาคว้าชัยแบบสุดบ้าคลั่ง 5-4
แม้ฟูแล่มจะสู้ยิบตาและเกือบสร้างปาฏิหาริย์คัมแบ็กในช่วงท้ายเกม
แต่สุดท้ายซิตี้ยังยืนหยัดคว้าชัยเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกันเหนือฟูแล่ม
เพียงนาทีที่ 17 เออร์ลิง ฮาลันด์ ก็ระเบิดประตูแรกของเกม
จากลูกครอสของ เฌเรมี่ โดกู
ซึ่งกลายเป็นประตูที่ 100 ในพรีเมียร์ลีก ของเจ้าตัว
ทำให้เขาทุบสถิติโลก ยิงครบ 100 ลูกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์:
ตัวเลขที่โหดร้ายเกินมนุษย์ และย้ำให้เห็นว่า
ฮาลันด์ คือเครื่องจักรสังหารของฟุตบอลยุคใหม่อย่างแท้จริง

ครึ่งแรก แมนซิตี้ เล่นเหนือกว่าแบบคนละชั้น:
แต่ก่อนพักครึ่ง เจ้าบ้านได้ความหวัง
เมื่อ เอมิล สมิธ โรว์ โขกตีไข่แตกเป็น 3-1
ครึ่งหลัง ซิตี้ หนีห่างเป็น 5-1
จากประตูของโฟเด้น (ลูกที่สองของเกม) และการยิงแฉลบของโดกู
แต่ฟูแล่มไม่ถอดใจ และทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อ “ซูเปอร์ซับ” ลงสนาม:
สนามแทบระเบิด ฟูแล่มโหมบุกหนักจนแฟนบอลเชื่อว่าปาฏิหาริย์กำลังเกิด
และเกือบทำได้จริงเมื่อ จอช คิง แปเน้น ๆ แต่ถูกเคลียร์จากเส้นแบบเหลือเชื่อ

แม้ฟูแล่มจะแพ้ แต่ฟอร์มของ ซามูเอล ชุควูเอเซ่
ที่ลงมาสร้างสองประตูสุดโหด ทำให้เขาถูกยกให้เป็น
Man of the Match (Flashscore) อย่างไร้ข้อกังขา
เกมนี้เข้าเกณฑ์ “คลาสสิก” แบบที่แฟนบอลจะพูดถึงไปอีกนาน
ยิงรวมกัน 9 ลูก และเต็มไปด้วยดราม่าแบบถึงใจ
แฟนบอลตัวจริงต้องไม่พลาด อัปเดตผลบอลเมื่อคืน พร้อมลิงก์ ดูบอลสดวันนี้ ฟรี ไม่มีสะดุด